ประสบการณ์เมื่ออพยพหนีน้ำท่วมใหญ่
เชื่อว่าหลายๆคนยังจำเหตุการณืน้ำท่วมใหญ่ปี54ได้ดีอยู่
เพราะตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นแบบนี้ ครอบครัวฉันก็ไม่พ้นภัยครั้งนี้ เพราะบ้านเราอยู่แถวๆรังสิต
คลอง5 เป็นที่ต่ำ น้ำก็ท่วมเหมือนๆคนอื่น บ้านฉันอยู่ในหมู่บ้านที่ใหญ่พอสมควร
และบ้านเราก็อยู่ซอยสุดท้ายในหมู่บ้าน ตอนที่น้ำกำลังมา ก็คุยกับสามีว่า จะเอาอย่างไรดี
เพราะคงหนีไม่พ้นน้ำท่วมบ้าน
สามีบอกว่าถ้ากั้นรอบๆบ้าน น้ำก็จะเข้ามาทางท่อน้ำทิ้งได้อยู่ดี
และถ้าเราอยู่ไม่ได้ เพราะเขาตัดน้ำ-ไฟ เราจะลำบาก
แม้ว่างานของเขาจะน้อยลงเพราะน้ำท่วม แต่ก็ต้องมีคนอยู่ออฟฟิศเพื่อดำเนินธุรกิจอยู่ดี
ปิดออฟฟิศเลยไม่ได้
และที่ออฟฟิศก็ต้องให้พนักงานที่ลำบากกว่าเรามาอาศัยอยู่ แต่ฉันก็ไม่อยากไปอยู่ที่บ้านแม่สามี ซึ่งอยู่ในเขต
กทม แถวๆสุขุมวิท ด้วยรู้มาตลอดว่าแม่สามีไม่ค่อยชอบฉันนัก
และไม่อยากผิดใจหรรือกระทบกระทั่ง ถ้าต้องอยู่ร่วมบ้านกันนานๆ และเป็นความโชคดีของฉันที่ พี่เกรียง
(ชายเดี่ยวเจ้าของสวนแถวๆระยอง)
รู้ข่าวเรื่องน้ำที่ใกล้บ้านฉันเข้ามา
เขาโทรมาถามสามีฉันถึงทุกข์สุขพอดี
เมื่อเขารู้ว่าบ้านฉันคงไม่พ้นน้ำท่วม และสามีจะไม่กั้นบ้าน
เพราะกลัวว่าถ้ากั้นแล้วน้ำทะลักทางท่อ น้ำจะขังข้างใน เสียหายกว่าที่จะปล่อยให้ขึ้นลงตามกระแสน้ำ
เขาเลยชวนให้อพยพไปอยู่บ้านเขาที่ระยองด้วย เพราะเขาอยู่คนเดียวตั้งแต่เมียตายไป3
ปีก่อน สามีฉันจึงตกลงจะพาฉันอพยพหนีน้ำไปอาศัยบ้านพี่เกรียงที่ระยองพี่เกรียงก็ใจดี
พาคนงานในสวนขึ้นรถปิกอัพมาช่วยฉันยกของจากชั้น1 ขึ้น ชั้น2 ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ สารพัด
และช่วยปิดจุดปลั๊กไฟกันน้ำเข้าให้ด้วยหลังจากเก็บของเสร็จ
เราออกเดินทางกันวันศุกร์เย็นๆ ไปถึงบ้านพี่เขาราวๆ2ทุ่มกว่า วันนั้น
พี่เกรียงพาเราออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารริมทะเล ซึ่งได้คุยกันว่า
พี่เกรียงจะให้ฉันกับสามีนอนในห้องนอนหนึ่งและวันจันทร์-ศุกร์
สามีฉันต้องกลับเข้ามาทำงานใน กทม พี่เกรียงจะคอย ดูแลฉันให้ คืนนั้นก็ผ่านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ด้วยเราทั้งหมดเหนื่อยจากการเก็บของ
วันเสาร์ต่อมา สามีฉันเสนอว่า เราจะทำอาหารกินกันที่บ้านพี่เกรียง
โดยไปซื้ออาหารทะเลสดๆ มาทำอาหารทานกัน แล้วสามีก็ขับรถออกไปกับพี่เกรียงก่อนไป
สามีกระซิบ ฉันว่า วันนี้ ฉันจะโดนจัดหนักแน่ๆ(ลืมบอกไปว่า
พี่เกรียงเคยมาร่วมออกรอบกับเราแล้วที่บ้านของเรา 3-4 ครั้ง
เราจึงสนิทกับพี่เกรียงพอสมควร)เมื่อพวกเขากลับมา ฉันก็เป็นคนทำกับข้าว ซึ่งเขาซื้อเบียร์มาดื่มกันด้วย
มากมาย ฉันถามสามีว่า ซื้อเบียร์มาทำไมเยอะแยะ ทั้งๆที่เขาไม่ใช่คนชอบดื่ม เขาบอกฉันว่า
จะเลี้ยงพี่เกรียงซะหน่อย และ พี่เกรียงขออนุญาตเอาลูกน้อง ของพี่เกรียงมาร่วมดื่ม
กินด้วย2-3 คน ซึ่งเขาอนุญาตไปแล้ว
ฉันก็เลยทำกับข้าวเพิ่มอีกนิดหน่อย จะได้พอกินกันทั้ง 6 คน พอทำกับข้าวเสร็จ
ออกมาจากครัวก็เห็นสามีฉัน พี่เกรียง กับลูกน้องพี่เกรียงเป็นหนุ่มๆชาวพม่าอีก3 คน
นั่งดื่มเบียร์กันอยู่ ฉันยกอาาหารมาวางแล้วก็ขอตัวไปอาบน้ำ
เพราะร้อนมาก
สามีฉันตามเข้ามาบอกว่า ให้ฉันใส่ "ชุดเก่ง" ออกไปนะ (ชุดเก่ง
ก็คือชุดนอนสีน้ำตาลเข้ม สายเดี่ยวผ้าบางๆ ความยาวแค่ปิดเป้าได้เท่านั้น) ฉันบอกว่า
มีลูกน้องพี่เกรียงอยู่ มันน่าเกลียด สามีฉันบอกว่า
พี่เกรียงเขาขออนุญาตให้ลูกน้องเขาดูตอนเราสวิงกันด้วย
ซึ่งสามีฉันอนุญาตแล้ว แต่พี่เกรียงเขาบอกว่า ถ้าฉันไม่อนุญาต
เขาก็จะให้ลูกน้องเขากลับไปก็ได้ สามีถามฉันว่าคิดยังไง ฉันบอกว่า "ก็ตามใจสิ
ไม่หวงเมียก็ตามใจ"
สามีก็บอกว่า "หึง แต่ไม่หวง เพราะอยากให้เมียมีความสุข"เมื่อฉันอาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้อง
ทุกสายตามองฉันอย่างกับอยากจะถอดชุดเก่งของฉันเสียเดี๋ยวนั้น
ตอนแรกฉันก็อายๆ แต่สามีก็บอกให้มานั่งข้างๆพี่เกรียง
แล้วเราก็ร่วมกินข้าว พูดคุยกันถึงเหตุการณ์น้ำท่วม พอประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ
ฉันรู้สึกว่า พี่เกรียงเริ่มมึนๆเบียร์ ด้วยปกติพี่เกรียงจะไม่ใช่คนพูดมากนักเหมือนสามีฉัน
แต่เขากลับช่างพูด ช่างแซว มีมุขตลกบ่อยๆ แสดงว่าเขาเริ่มเมา เขาแซวฉันว่า
"หนูนาไม่ดื่มเบียร์เป็นเพื่อนพี่เหรอ" (พี่เกรียงเขาเรียกฉันว่า หนูนา
แต่สามีเรียกฉันว่า นานา) ฉันบอกว่า ฉันดื่มไม่เก่งเดี๋ยวเมา
พี่เกรียงบอกว่า "เมาสิดี พี่จะได้ปล้ำสะดวกๆ"ฉันตอบว่า
"ไม่เอา เดี๋ยวพี่เอก(สามีฉัน) ว่าเอา สามีฉันตอบว่า "ตามสบายเลยพี่
ผมเชียร์เต็มที่" แล้วเขาก็หัวเราะกันสนุกสนาน
พี่เกรียงบอกว่า "ถ้าเชียร์พี่
พี่ขอให้ลุกน้องพี่ช่วยปล้ำด้วยได้ไหม"สามีฉันก็บอกว่า
"ตามสบายเลย"พี่เกรียงเลยหัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่
แล้วหันไปบอกลูกน้องว่า
"อ้าว พวกมึงไหว้ขอบคุณคุณเอกเขาสิ
เห็นไหมว่าเขาใจดีขนาดไหน"
ลูกน้องพี่เกรียงก็รีบไหว้สามีฉันตามที่พี่เกรียงบอกระหว่างนั้น
พี่เกรียงก็เอามือมาวางที่ต้นขาฉัน ลูบไล้เบาๆ ชุดเก่งที่ัส้นมากอยู่แล้ว เมื่อพี่เกรียงลูบขึ้นลูบลง
มันก็ถลกขึ้นไป
จนลูกน้องพี่เกรียงที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองเห็นหีฉันที่ไม่ได้ใส่กางเกงใน
บางครั้งพี่เกรียงก็วางมือไว้เฉยๆ แต่นิ้วเขาสิ
กรีดบ้างขยับบ้างเข้าร่องหลืบฉัน
จนฉันเสียวมากๆ ยิ่งเห็นทั้งสามีและลูกน้องพี่เกรียงมองอยู่
ฉันยิ่งมีอารมณ์มาก
จึงค่อยๆแยกขาออกให้พี่เกรียงเอานิ้วแหย่ได้สะดวกๆแล้วสามีฉันก็บอกว่า
พี่เกรียงจะเอานิ้วแหย่อย่างเดียวเหรอครับ ผมว่านานาอยากให้พี่ทำมากกว่านี้นะครับ
พี่เกรียงจึงก้มลงจูบฉันที่ไหล่ และปลดสายชุดเก่งของฉันให้หลุดลงมา
เมื่อชุดเก่งฉันเลื่อนลงมาอยู่ที่เอว ก็เผยให้เห็นหน้าอกมีกำลังชูชันเพราะความเสียว
พี่เกรียงก็ตะปบและบีบทั้ง2ข้าง แล้วก็ก้มลูงดูด
ปล่อยให้ท่อนล่างของฉันโชว์สายตาลูกน้องเขา และ สามีของฉัน สักพักฉันรู้สึกถึงลิ้นอุ่นๆที่กำลังแทรกเข้าร่องหีของฉัน
ฉันเหลือบตาดูก็เห็นลูกน้องของพี่เกรียง กำลังก้มลงเลียและเอาลิ้นแยงเข้าไปอยู่
ฉันมองไปที่สามีก็เห็นเขากำลังช่วยเหลือตัวเองอยู่
โดยไม่มีเสื้อผ้าติดร่างกายเลย
สักครู่พี่เกรียงก็อุ้มฉันมานอนหงาบราบไปที่ม้านั่ง
เขาคุกเข่าข้างๆฉันแล้วก้มลงดูดนมต่อไป ลูกน้องคนที่เลียหีีฉันก็ตามมาแหกขาของฉันอออกแล้วเลียต่อ
ลูกน้องพี่เกรียงอีกคนหนึ่งมายืมคร่อมหัวฉัน
แล้วค่อยๆกดควยที่แข็งมากๆเข้าปากฉัน
ฉันค่อยๆอ้าปากดูดเลียควยของเขาอย่างเมามัน แล้วทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่า
ลูกน้องคนที่เลียหีฉันนอยู่ ดันควยของเขาเข้ามา สามีฉันเดินมากระซิบว่า
"ควยน้องเขาหัวบานมากเลย
พี่ว่าเวลาเขาถอนออกมันจะครูดผนังหีนานาให้เสียวมากๆแน่" แล้วฉันก็รู้สึกอย่างงั้นจริงๆ
เมื่อเขาถอนออก แต่มันไม่หลุดออกมาเพราะมันคาที่ส่วนหัว แล้วเขาก็กดลงไปอีก
ฉันต้องคายควยที่อมอยู่ แล้วร้องครางเพราะความเสียว พี่เกรียงกระซิบว่า
"นี่ยังไม่ใช่ควยใหญ่ที่สุดนะ คนที่ใหญ่ที่สุดกำลังนั่งมองหนูนาอยู่ อีกเดี๋ยวหนูนาจะรู้ว่าควยพม่าที่ใหญ่ๆมันแค่ไหน"ฉันผงกหัวขึ้นดูลูกน้องพี่เกรียงที่กำลังนั่งสาวควยตัวเองอยู่
จึงเห็นว่าควยของน้องคนนี้ ใหญ่มากๆเขาไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวแล้ว รูปร่างเขากำยำคล้ายๆกับนักมวยที่ชื่อบัวขาวนั่นแหละ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น